วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

ผลไม้ภาคกลาง

ผลไม้ภาคกลาง



 1. ทุเรียน เป็นผลไม้เมืองร้อนที่เก่าแก่ชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดอยู่ในบริเวณเอเชียตอนใต้แถบหมู่เกาะบอร์เนียว อินโดนีเซีย ต่อมาได้แพร่กระจายไปปลูกในที่ต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย กลิ่นหอม รสหวาน และมีราคาแพง นอกจากจะใช้ทุเรียนรับประทานสดและขายเป็นสินค้าแล้ว ถ้ามีมากจนขายไม่ทัน สามารถนำมากวนหรือทอดเก็บไว้ขายนอกฤดู ทุเรียนจัดเป็นไม้ผลที่เชิดหน้าชูตาคนไทย ทั้งนี้เพราะมีความแปลกทั้งรูปร่าง กลิ่นและรสชาติ อีกทั้งในปัจจุบันทุเรียนจากประเทศไทยนับได้ว่ามีคุณภาพดีที่สุด เป็นที่รู้จักและนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สำหรับตลาดแถบเอเซียที่สำคัญ ได้แก่ ฮ่องกง มาเลเชีย และบรูไน และมีแนวโน้มที่จะขยายตลาดออกไปยังประเทศในกลุ่มทวีปยุโรป และอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เป็นต้น
ทุเรียนได้รับยกย่องให้เป็นราชาแห่งผลไม้ เนื้อทุเรียนให้สารอาหารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและให้พลังงานความร้อน จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อรับประทานทุเรียนในช่วงอากาศร้อนอบอ้าวจะรู้สึกร้อน อึดอัด และหายใจไม่ออก


2.ลำไย เป็นผลไม้ที่สำคัญของภาคเหนือของประเทศไทย สามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ นำรายได้เข้าประเทศปีละหลายร้อยล้านบาท เพราะลำไยเป็นที่นิยมบริโภคกันมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นลำไยจึงเป็นผลไม้ที่ควรสนใจเป็นอย่างมาก เพราะผลผลิตขายได้ราคาดี เป็นที่ต้องการทั้งผู้บริโภคและโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ในตลาดต่างประเทศยังมีคู่แข่งค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น
ลำไยเป็นผลไม้รสหวาน เนื้อผลอุดมด้วยวิตามินซี ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง เพราะมีน้ำตาลสูงถึง ๒๗ เปอร์เซ็นต์ เมล็ดลำไยมีสารฝาดสมานที่ช่วยห้ามเลือด และสารชาโปนินซึ่งใช้สระผมได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ หากรับประทานลำไยจะช่วยให้นอนหลับสบาย




3.ลิ้นจี่ เป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของประเทศไทย ในปัจจุบันเกษตรกรปลูกลิ้นจี่กันแพร่หลายมากขึ้นเกือบทุกภาคของประเทศ ทั้งนี้เพราะลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีราคาค่อนข้างแพง การปลูกดูแลรักษาง่าย โรคแมลงรบกวนน้อย และที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิ้นจี่จากจังหวัดเชียงราย และลิ้นจี่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกลิ้นจี่มากที่สุด เพราะภูมิอากาศเหมาะสมมาก ตลาดต่างประเทศที่สำคัญของลิ้นจี่ ได้แก่ คูเวต ญี่ปุ่น สิงคโปร์ แคนาดา ฮ่องกง ซาอุดีอาระเบีย เดนมาร์ก ไต้หวัน เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม บรูไน ฝรั่งเศส มาเลเชีย สวีเดน อเมริกา เยอรมัน อังกฤษ เป็นต้น
สำหรับแหล่งปลูกดั้งเดิมของลิ้นจี่นั้นสันนิษฐานว่าอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ต่อมาลิ้นจี่ได้ขยายพื้นที่ปลูกออกไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น สำหรับประเทศไทยนั้นเข้าใจว่าได้มีการนำลิ้นจี่เข้ามาปลูกตั้งแต่ราวต้นสมัยรัตนโกสินทร์
ลิ้นจี่ผลไม้สารพัดประโยชน์ อุดมด้วยวิตามินและน้ำตาล รสชาติออกเปรี้ยวหวาน ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน หากรับประทานมากจะทำให้ร่างกายร้อน จึงเหมาะที่จะรับประทานเมื่ออากาศเย็น การรับประทานลิ้นจี่เป็นผลดีต่อร่างกาย เพราะลิ้นจี่มีสรรพคุณเป็นยาบำรุง และยังแก้ท้องเดินได้ เมล็ดของลิ้นจี่มีฤทธิ์เป็นยาฝาดสมานช่วยระงับความเจ็บปวดในกระเพาะอาหาร วิธีใช้คือ บดให้เป็นผงประมาณ ๔ – ๕ กรัม แล้วชงดื่ม น้ำลิ้นจี่ดื่มแก้กระหาย ช่วยย่อย บำรุงม้าม และประสาท



 4.เงาะ เป็นผลไม้เขตร้อนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของไทย มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั้งในภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศไทย สามารถขึ้นได้ในดินเกือบทุกชนิดแต่จะเจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีมีคุณภาพในสภาพที่มีความชื้นในอากาศสูง มีฝนตกกระจายเกือบตลอดปี ผลมีลักษณะค่อนข้างกลมรี สีเหลือง แดง หรือเหลืองปนแดง มีขนอยู่โดยรอบ ขนสีเดียวกับผิวของผล เนื้อภายในผลมีลักษณะอ่อนนุ่ม สีขาวใสหรืออมเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว รสชาติอร่อย มีทั้งหวาน หวานอมเปรี้ยว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ สำหรับพันธุ์ที่นิยมปลูกและรับประทานมากที่สุดในปัจจุบันคือ เงาะพันธุ์โรงเรียน
เงาะเป็นผลไม้รสหวานไม่จัด อุดมด้วยวิตามินซีและน้ำตาล รับประทานแก้บิด ท้องอืด ท้องเฟ้อ และแก้ไข้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้ แต่ไม่ควรมากเกินไป เปลือกเงาะมีรสฝาด มีสารแทนนินใช้เป็นยาขับพยาธิ เมล็ดมีฤทธิ์ทำให้หลับ

 5.ขนุน เป็นผลไม้อีกชนิดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ นิยมปลูกและรับประทานกันมาก เป็นผลไม้ที่ปลูกและดูแลรักษาง่าย เจริญเติบโตรวดเร็ว สีเนื้อออกเหลืองทองหรือออกแดง มีรสชาติหวานจัด ผลของขนุนนำมาบริโภคได้ทั้งผลสุกและผลดิบ และสามารถรับประทานได้ตั้งแต่ส่วนของเนื้อไปจนถึงซังและเมล็ด ส่วนมากจะรับประทานเป็นผลไม้สดหรือนำไปผสมกับอาหารประเภทอื่นๆ เช่น ไอศกรีม ลอดช่องรวมมิตร ให้มีรสชาติมากขึ้นหรือจะนำเนื้อมากวนทำขนุนกวน ส่วนเมล็ดของขนุนจะนำมาต้มใส่เกลือรับประทาน ผลดิบส่วนมากจะใช้ประกอบอาหารของชาวอีสาน คือ ซุปขนุน ส่วนของไม้ขนุนสามารถนำมาทำเป็นเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์เพราะเนื้อไม้ของขนุนมีสีเหลืองสวยงามมาก
ขนุนสามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย จังหวัดที่ปลูกขนุนกันมาก ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ตราด ระยอง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกขนุนที่เก่าแก่ นอกจากนี้ยังมีจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี นครนายก พิจิตร ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสงขลา
ขนุน ยวงสีเหลือง รสหวานอร่อย เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง หลายคนมักนำไปประกอบอาหาร เช่น ขนมหวาน หรือจะนำขนุนอ่อนไปทำแกงประเภทต่างๆ สุภาพสตรีควรรับประทานขนุนสุก เพราะมีสรรพคุณรักษาโรคเกี่ยวกับทรวงอก ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ควรรับประทานขนุนอ่อน เพราะในผลอ่อนมีเส้นใยอาหารช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
เมล็ดขนุนนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง หรือจะนำมาต้มจนสุกแล้วรับประทานเป็นยาบำรุงก็ได้ และช่วยขับน้ำนมสำหรับสตรีคลอดบุตรใหม่ๆ นอกจากนี้การรับประทานขนุนเป็นประจำช่วยให้ผิวพรรณดี
มะม่วง ในปัจจุบันเป็นผลไม้ที่ได้รับความสนใจจากเกษตรกรอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย ขึ้นได้ดีในสภาพดินแทบทุกชนิด ผลมีรสชาติอร่อย รับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก ซึ่งสามารถนำไปปรุงเป็นอาหารหรือแปรรูปด้วยวิธีการกวน แช่อิ่ม หรือดองก็ได้
นอกจากจะใช้ผลบริโภคเป็นส่วนใหญ่แล้วยังนิยมใช้ยอดอ่อน ช่ออ่อน ผลอ่อน และผลดิบมาประกอบเป็นอาหารประเภทผักได้อีกด้วย 

6.มะม่วง ในปัจจุบันเป็นผลไม้ที่ได้รับความสนใจจากเกษตรกรอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย ขึ้นได้ดีในสภาพดินแทบทุกชนิด ผลมีรสชาติอร่อย รับประทานได้ทั้งผลดิบและผลสุก ซึ่งสามารถนำไปปรุงเป็นอาหารหรือแปรรูปด้วยวิธีการกวน แช่อิ่ม หรือดองก็ได้
นอกจากจะใช้ผลบริโภคเป็นส่วนใหญ่แล้วยังนิยมใช้ยอดอ่อน ช่ออ่อน ผลอ่อน และผลดิบมาประกอบเป็นอาหารประเภทผักได้อีกด้วย มะม่วงเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีอายุยืน ลักษณะทรงต้นแข็งแรง มีกิ่งใบสาขาเหมาะที่จะเป็นไม้ร่มเงา บังแดดหรือปลูกประดับสถานที่ได้เป็นอย่างดี ลำต้นมะม่วงยังนำมาเลื่อยเป็นไม้กระดานใช้ได้ดีอีกด้วย
ปัจจุบันความต้องการผลสดของมะม่วงทั้งตลาดภายในและต่างประเทศมีปริมาณสูงขึ้น ทำให้มะม่วงกลายเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่ง ชาวต่างประเทศรู้จักมะม่วงไทยว่ามีรสชาติดี กลิ่นหอมชวนรับประทาน จึงมีการส่งเสริมให้ปลูกมะม่วงอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศและส่งออกจำหน่ายยังต่างประเทศ
มะม่วงดิบบำรุงกระเพาะอาหาร เมล็ดใช้แก้บิดและท้องเสียได้ โดยนำเมล็ดมาหั่นบางๆ ผึ่งแดดให้แห้ง ตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นให้เป็นลูกกลอน นำไปผึ่งแดดอีกครั้ง รับประทานครั้งละ ๕ – ๗ เมล็ด ทุก ๔ ชั่วโมง จนกว่าอาการจะบรรเทา เศษผลมะม่วงดิบแก้ส้นเท้าแตกได้ โดยทาที่ส้นเท้าก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน แล้วสวมถุงเท้าทับอีกชั้นหนึ่ง ใบอ่อนใช้รักษาลำไส้อักเสบเรื้อรัง ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือนำมาพอกรักษาแผลสด
มะม่วงสุก ผลสีเหลือง มีวิตามินเอ ทั้งยังอุดมด้วยวิตามินซี ธาตุแคลเซียม ฟอสฟอรัส และสารแคโรทีนอยด์ ผลสดรับประทานแก้คลื่นไส้ วิงเวียน โรคเลือดออกตามไรฟัน ขับปัสสาวะ และมีฤทธิ์เป็นยาระบาย
เนื่องจากมีการศึกษาพบว่า สารแคโรทีนอยด์ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจและมะเร็ง สร้างเสริมภูมิคุ้มกัน เสริมการทำงานของระบบประสาท และชะลดการเกิดกระที่ผิวหนัง จึงควรรับประทานมะม่วงสุกที่มีสารชนิดนี้ แต่ก็ควรรับประทานผักและผลไม้อื่นๆ ที่มีสารนี้ควบคู่กันไปด้วย เช่น ฟักทอง มะละกอ แคร์รอต พริกแดง เพราะสารแคโรทีนอยด์เป็นกลุ่มสารที่มีถึง ๖๐๐ ชนิด และให้คุณประโยชน์แตกต่างกันไป ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะม่วงสุก เพราะมีน้ำตาลสูง
7.แตงโม เป็นผลไม้ตระกูลแตงที่คนไทยรู้จักและบริโภคกันมานานแล้ว นอกจากนิยมใช้ผลรับประทานแล้ว ยังใช้ส่วนของผลอ่อน ยอดอ่อนในการปรุงอาหารหลายชนิด แตงโมเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทุกฤดูกาลตลอดปี ปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ปลูกได้ดีในสภาพดินร่วนปนทราย
แตงโมเป็นผลไม้เนื้อสีแดง หวาน ฉ่ำน้ำ อุดมด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินเอและบี ๖ ช่วยกระตุ้นการทำงานของไตให้ชำระของเสียออกจากร่างกาย และเป็นยาระบายอ่อนๆ
นอกจากเนื้อแตงโมจะทำให้ร่างกายชุ่มชื่นยังช่วยให้ผิวหน้าสดชื่นด้วย โดยนำเนื้อแตงโมหั่นเป็นชิ้นวางบนหน้าประมาณ ๒๐ นาที จะทำให้ผิวนุ่มขึ้น
น้ำแตงโมรสหวานหอมชื่นใจ ดื่มแก้ร้อนในกระหายน้ำ ปากเป็นแผล ขับปัสสาวะ แก้อ่อนเพลียและวิงเวียน น้ำแตงโมที่เหลือเก็บไว้ประมาณ ๒ – ๔ เดือน จนมีรสเปรี้ยว นำมาทาแก้แผลไฟไหม้และน้ำร้อนลวกได้ เปลือกแตงโมใช้แก้ปากและลิ้นเป็นแผลได้เช่นเดียวกับน้ำแตงโม ซึ่งชาวจีนได้พัฒนามาเป็นยาผงแล้ว สำหรับสตรีมีหน้ามัน ให้ปั่นเปลือกแตงโมกรองเอาแต่น้ำมาล้างหน้า ทิ้งไว้ ๑๕ นาทีก่อนล้างออก จะช่วยลดความมันบนผิวหน้า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น